วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนใช้ลิง


  
    ลิงมีภาพลักษณ์ของสัตว์ที่ว่องไว ปีนต้นไม้เก่ง ความคิดพื้นๆเหล่านี้เป็นที่มาของการนำจุดเด่นของลิงมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าการนำลิงมาฝึกเพื่อเล่นละครลิงในภาคกลางของประเทศหรือการฝึกลิงเก็บมะพร้าวที่ภาคใต้ แต่การฝึกลิงนั้นไม่ใชเรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ 



    เรื่องราวเกี่ยวกับลิงเก็บมะพร้าวที่ภาคใต้เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป แต่คงจะจะมีไม่กี่คนที่เคยเห็นลิงเก็บมะพร้าวจริงๆและไม่ใช่ว่าลิงทุกตัวจะสามารถนำมาฝึกใช้งานได้ เนื่องจากลิงแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะนิสัยเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน แต่ที่คล้ายกันอย่างหนึ่งคือลิงทุกตัวจะฉลาด ดื้อและดุร้าย ดังนั้นลิงที่สามารถนำมาใช้งานได้ จะต้องเป็นลิงที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีแล้วและลิงที่สามารถนำมาฝึกได้คือลิงกังเท่านั้น 

   การฝึกลิงมาใช้งานได้ทำกันมาเป็นเวลานานแล้วที่ภาคใต้แต่การฝึกลิงที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงที่สุดคือการฝึกลิงของคุณ สมพร แซ่โค้ว ที่เกาะสมุย

     คุณสมพรเกิดมาในครอบครัวที่มีอาชีพทำสวนมะพร้าวที่ใช้ลิงเก็บมะพร้าว จากประสพการณ์ชีวิตที่ได้เห็นลิงมาตั้งแต่เด็ก ทำให้สมพรได้เห็นจุดด้อยของการทำงานบนความสัมพันธุ์ที่ขัดแย้งกันระหว่างลิงกับคน เมื่อลิงเก็บผลมะพร้าวที่ไม่ต้องการลงมาก็จะมีการ ทำโทษเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงเป็นการสั่งสอน นอกจากนี้บางครั้งลิงก็ต้องตายบนยอดมะพร้าวเนื่องจากถูกเชือกพันติดอยู่กับทางมะพร้าวและไม่มีใครสามารถขึ้นไปช่วยได้

    สมพรมองเห็นจุดด้อยของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับลิง เขาอาศัยหลักธรรมของหลวงพ่อพุทธาสเป็นแนวทางในการคิดค้นวิธีการฝึกลิงขึ้นมาใหม่ ให้ความรักและพยายามทำความเข้าใจถึงธรรมชาติของลิง เขาได้เริ่มสร้างความผูกพันโดยการอยู่ร่วมกัน สร้างความคุ้นเคย พูดช้าๆซ้ำๆ จนลิงเริ่มเข้าใกล้ แล้วยอมให้แตะต้องตัวในที่สุด

     เขาได้เริ่มฝึกลิงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 โดยเริ่มฝึกตามขั้นตอน ทำซ้ำๆ ช้าๆ ด้วยความตั้งใจและใจเย็น สมพร มอบความรักและความใกล้ชิดจนสามารถเปลี่ยนสัญชาติญาณสัตว์ป่าของลิงให้คลายลงจนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่สามารถสื่อสารกับคนและทำงานหาเงินมาเลี้ยงเจ้าของได้  

    ระบบฝึกลิงของสมพรจะเป็นที่ยอมรับไปทั่วปักษ์ใต้ โรงเรียนฝึกลิงของสมพรมีชื่อเสียงไปทั่วโลก นอกจากลิงจะถูกฝึกให้เล่นละครหรือที่เรียกว่าละครลิงแล้ว ทุกวันนี้ สถานท่องเที่ยวหลายแห่ง ได้ทำการฝึกลิงให้แสดงการเก็บมะพร้าวให้นักท่องเที่ยวดู จากอาชีพลิงเก็บมะพร้าวที่เกือบจะสูญหายไปจากภาคใต้ สมพรได้ปลุกกระแสลิงขึ้นมาขึ้นมาอีกครั้งจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก น่าเสียดายที่สมพรได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ ปี 2545 



วิรัตน์ กับ เจ้าน้อย ลิงที่เพิ่งเข้าสังกัด เดินตามหลังเจ้าของแต่โดยดี

    วิรัตน์ คนปักษ์ใต้ลูกพังงาขนานแท้ ก็เป็นอีกคนที่มีอาชีพรับจ้างเก็บมะพร้าวตามรอยบรรพบุรุษ เขาใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับลิงมาร่วม30ปี จึงมีกลิ่นลิงติดตัว เขาเล่าว่าเมื่อเขาเข้าใกล้กรงลิงตอนไปเที่ยวสวนสัตว์ที่ภูเก็ต  ลิงที่ถูกขังอยู่ในกรงจะพากันยักคิ้วหลิ่วตาให้แทนการขู่กรรโชกแบบที่ทำกับนักท่องเที่ยวทั่วๆไป 

      ทุกวันนี้ วิรัตน์มีลิงคู่ใจอยู่2ตัวคือ เจ้าน้อยและเจ้าน้อง  เจ้าน้องเป็นลิงที่เลี้ยงมาก่อน รู้งานโดยไม่ต้องสั่งงาน ส่วนเจ้าน้อย วิรัตน์เพิ่งจะได้มายังไม่ถึง 20วันดี


เจ้าน้อง  ลิงชำนาญการพิเศษ กำลังพยักเพยิดหยอกล้อตากล้อง

"หน่วยนั้นแหละ แขบเข้า เดี๋ยวมดกัดตายหรอกมัวแต่เล่นอยู่ได้"
 เสียงตะโกนของวิรัตน์ ทำให้คนที่ผ่านไปมาอดสงสัยไม่ได้ว่าแกกำลังพูดอยู่กับใคร

     เมื่อเข้าไปไกล้จึงรู้ว่าวิรัตน์กำลังถือเชือกเส้นหนึ่งควบคุมอะไรบางอย่าง เขายืนอยู่ใต้ต้นมะพร้าว คอยดึงเชือกเส้นยาวที่ผูกโยงกับลิงตัวหนึ่งบนยอดมะพร้าว 

    ปากตะโกน มือก็กระตุกเชือกไปพลาง วิรัตน์ใช้ทักษะเฉพาะตัวในการควบคุมลิงที่อยู่บนยอดมะพร้าวให้ทำตามคำสั่งอย่างไม่บิดพลิ้ว
   
     แม้ว่าเจ้าน้อยจะเป็นลิงอ่อน(อายุยังน้อย)ที่วิรัตน์เพิ่งซื้อมาด้วยราคา 30,000 บาท  แต่มันเป็นลิงหัดใหม่ที่ทำงานได้คล่องแคล่วและเชื่อฟังคำสั่งแบบไม่อิดออด คนและลิงต่างสื่อสารกันด้วยภาษาไทยสำเนียงปักษ์ใต้แบบคนกับคนไม่ใช่แบบคนกับสัตว์

    บางครั้งเจ้าน้อยลังเลสับสนในการเลือกผลมะพร้าวที่มันจะปลิด มันก็จะกระโจนไปมาระหว่างทะลายโดยไม่ยอมปลิดลูกจนกว่าจะได้รับคำยืนยันจากวิรัตน์ 
 "ทะลายนั้นแหละสุกแล้ว  แขบๆเข้า เดี๋ยวมดกัดตายหรอก"  วิรัตน์ออกคำสั่งพร้อมกระตุกเชือกเบาๆ เจ้าลิงหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่าย มันปั่นผลมะพร้าวจนหมุนติ้วและขาดหลุดออกจากทะลายอย่างง่ายดาย


เจ้าน้อยกำลังเลือกมะพร้าวสุก ด้วยความชำนาญ



   ชั่วชีวิตของวิรัตน์ ทำอาชีพ "คนใช้ลิง" มาตลอด นอกจากการรับจ้างเก็บมะพร้าวแล้ว ทุกวันนี้วิรัตน์ยังพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นพ่อค้าขายส่งมะพร้าวอีกด้วย ลูกค้าของวิรัตน์ส่วนใหญ่ก็เป็นแม่ค้าคั้นน้ำกะทิสดขายและแม้ค้าขนมสดที่ใช้มะพร้าวเป็นวัตถุดิบ 

รอจนเซ็ง เพราะไม่มีคิวปีนมะพร้าว


  วิรัตน์มีปรัชญาการทำงานที่ทันสมัย เขาถือคติว่า ไม่ว่าคนหรือสัตว์ต่างก็มีหัวใจ มีร้อนหนาว มีโกรธมีกลัวเหมือนๆกัน เมื่อมีการทำโทษก็ต้องมีการให้รางวัล ลิงของวิรัตน์ทุกตัวจะได้รับรางวัลเป็นนมเปลี้ยวขนาด 250 ซีซีตัวละหนึ่งขวดทุกครั้งหลังภาระกิจการขึ้นมะพร้าวแล้วเสร็จ

    " เวลาคนทำโทษสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นช้างหรือลิง เราก็แค่ต้องการให้มันรู้กฏและเชื่อฟัง ทำโทษแค่พอเจ็บพอให้จำ แต่เวลาสัตว์มันทำกับคนเลี้ยง มันจะเอาถึงตาย ดังนั้น นอกจากต้องให้ความรักกับมันแล้ว ยังต้องคอยดูอารมณ์มันให้ดี สัตว์ แม้จะแสนรู้แค่ไหน มันก็ยังมีสัญชาติญานดิบของความเป็นสัตว์ป่าอยู่ตลอดเวลา" วิรัตน์กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะนำลิงคู่ใจไปผูกล่ามกับต้นไม้ไกล้ๆกับกองมะพร้าวที่เพิ่งรวบรวมเสร็จ

     ในขณะที่สองมือพลอ(ปลอก)มะพร้าว วิรัตน์เปลี่ยนเรื่องคุยมาเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับลิง " ผมมีรถเก่าอยู่คันหนึ่ง ใช้หลายสิบปีแล้วแต่ยังแล่นฉิว" วิรัตน์หันมาอารัมบทกับคน "แม้จะเก่าแต่มันก็เป็นระบบหัวฉีดรุ่นแรกๆเชียวนะ ผมซื้อมาหลายปีแล้ว มันมาจากน้ำพักน้ำแรงลิงทั้งนั้น"  เขาเล่าแบบให้เกียรติลิงเหมือนจะบอกเป็นนัยนัยว่า ถ้าเขาไปไหนลิงก็จะทวงสิทธิ์ไปด้วยเสมอ 

    " ผมอยากจะถอยรถใหม่สักคันเหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้วก็ต้องระงับความอยากได้ไว้ก่อน"  วิรัตน์รำพึงก่อนหันมามองเจ้าน้องและน้อยลิงคู่ชีพแบบชั่งใจ



ข้อมูลเกี่ยวกับลิงกัง   https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89